มดรุกรานเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่กว่าที่เราคิด

พบมดมากกว่า 500 สายพันธุ์ในที่ที่พวกมันไม่ควรอยู่—สร้างความเสียหายให้กับระบบนิเวศในท้องถิ่น เราจะหยุดพวกเขาได้อย่างไร?

ในเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ในปี พ.ศ. 2544 พนักงานโทรคมนาคมคนหนึ่งถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเนื่องจากถูกแมลงกัดต่อยซึ่งกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง มดคันไฟแดงซึ่งมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้และมีชื่อเสียงทั้งในด้านพิษ ความก้าวร้าว และความสามารถในการทำลายพืชผลทางการเกษตรได้มาถึงแล้ว ส่งสัญญาณเตือนภัย การต่อสู้กับการรุกรานของมันคือ นักวิทยาศาสตร์เขียน ในภายหลังว่า “สงครามที่เราแพ้ไม่ได้”

มด “เอเลี่ยน” ที่อยู่นอกเขตกำเนิดของพวกมัน เช่น มดคันไฟแดง ถูกขนส่งไปทั่วโลกโดยไม่ได้ตั้งใจโดยการขนส่งสินค้าและสินค้า มนุษย์พยายามที่จะหยุดพวกมัน คำเตือนที่สนามบินชายแดนห้ามนำพืชหรือดินเข้ามาในประเทศส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันการผ่านแดนดังกล่าว

แต่ผู้บุกรุกนั้นแพร่หลาย มดคันไฟชาวอาร์เจนตินาได้สร้างอาณานิคมขนาดใหญ่ที่ทอดยาวจากโปรตุเกสไปยังอิตาลี ในประเทศเกาะเล็ก ๆ ของ Yap มดคันไฟตัวน้อยได้บังคับให้ชาวนาละทิ้งที่นาของตน และบนเกาะคริสต์มาส มดบ้าสีเหลืองจะต่อสู้กับปูที่มีชื่อเสียงของพื้นที่

กระดาษใหม่แสดงให้เห็นว่าปัญหาเลวร้ายยิ่งกว่าที่เราคิดภาพผู้คนในเสื้อคลุมสีขาวกำลังก้มตัวอยู่บนพื้นหญ้าเจ้าหน้าที่นฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ค้นหามดคันไฟหลังจากค้นพบมดคันไฟได้ไม่กี่ตัวในปี 2560 ประเทศนี้กำลังทำสงครามกับมดคันไฟโดยพยายามป้องกันไม่ให้พวกมันเป็นที่รู้จัก หมู่เกาะเป็นจุดที่เกิดการรุกรานเนื่องจากมักมีขนาดเล็กและแยกออกจากกันทางชีววิทยา… อ่านเพิ่มเติมภาพถ่ายโดย THE YOMIURI SHIMBUN, AP IMAGES

การศึกษาซึ่งตีพิมพ์เมื่อเร็วๆ นี้ในวารสาร Current Biologyได้บันทึกกรณีของมดเอเลี่ยนมากเป็นสองเท่าเท่าที่ทราบมาก่อนหน้านี้ โดยพบมดมากกว่า 500 สายพันธุ์ในที่ที่พวกมันไม่ควรอยู่ แต่มีเพียงหนึ่งในสามของสปีชีส์เหล่านี้เท่านั้นที่ถูกพบที่ชายแดน ส่วนที่เหลือเล็ดรอดออกไปโดยตรวจไม่พบ

Mark Wong นักนิเวศวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลียและผู้เขียนนำงานวิจัยชิ้นใหม่กล่าวว่า “เราเพิ่งเริ่มที่จะเกาผิวของสิ่งนี้” (Wong และผู้เขียนร่วม Benoit Guénard เป็นนักสำรวจของ National Geographic)

มดท่องเที่ยวตราบใดที่มนุษย์ยังเดินทางไปทั่วโลก มดก็เดินทางรอนแรมไปกับเรา โดยส่วนใหญ่อยู่ในสินค้าต่างๆ เช่น อาหาร พืช และดิน มดที่ “ท่องเที่ยว” เหล่านี้ตามที่กระดาษฉบับหนึ่งในปี 1939 ขนานนามว่าพวกมันได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลกตั้งแต่ช่วงปี1600 เป็น อย่าง น้อย

 

Releated